ของฝากจากเลักซ์เซมเบิร์ก Photos Panoramas Postcards Videos Guestbook
 
อ่านบันทึกเล่าสู่กันฟัง
เยอรมัน
ฝรั่งเศส
ลักซ์เซมเบิร์ก

<NEW!> เนเธอแลนด
เบลเยี่ยม

 




ความลับที่ซ่อนไว้ของยุโรปที่ลักซ์เซมเบิร์ก


ปล่อยให้ความคิดความรู้สึกล่องลอยออกไปทักทายโลกใบใหม่นอกหน้าต่างบ้าง กับ...
ปล่อยให้เจ้าความคิดพักผ่อนอยู่เงียบๆ
สองอย่างนี้ คือ กิจกรรมของพวกเราบนรถไฟ (อ่านแล้วงงมั๊ย อิๆๆ ง่าย ๆ ก็คือหลับกับตื่นอยู่นั่นเอง)

พวกเราหลับ ๆ ตื่น ๆ มาช่วงระยะหนึ่ง แล้วต้องมาตื่น (แตกตื่นถึงจะถูก) เมื่อผ่านด่าน
(รถไฟไม่ได้จอดให้เราลงไปหรอกนะ) มีเจ้าหน้าที่ 2 คน เข้ามาขอดูพาสปอร์ตและวีซ่า แถมจูงหมาตัวน้อย
พันธุ์น่ารักคล้าย ๆ พุดเดิ้ล (น่ารักแต่ก็สุนัขตำรวจอะน่ะ) มาสำรวจข้าวของผิดกฎหมายด้วย (โชคดีที่พวกเรา
ไม่ไ่ด้ขนอะไร ที่น่าสงสัยมาด้วย ไม่งั้น...คงแย่) สัมภาษณ์พวกเราเล็กน้อย ถามว่าจะไปไหน ไปทำอะไร
ไปกี่วัน เป็นนักเรียนรึเปล่า อะไรทำนองนั้น พวกเราตั้งหลักได้ก็ยิ้มก่อนเลย ก่อนที่จะรวบรวมความกล้า
ตอบคำถามไปอย่างมั่นใจ อิๆๆๆๆ ไม่รู้ละ เราก็ตอบด้วยสำเนียงที่ฟังแล้วดัดจริตที่สุดที่จะทำได้ (เวอร์จริง ๆ)
แต่แล้วเราก็รอดมาได้อย่างปลอดภัย ^_-

หลับบ้างตื่นบ้าง...ไปห้องน้ำก็แล้ว...มองวิวก็แล้ว......แต่แล้วสามชั่วโมงผ่านไปก็มาถึง... ลักซ์เซมเบิร์ก

พวกเรามาถึงลักเซมเบิร์ก ด้วยความเหน็ดเหนื่อยพอประมาณ ไม่ได้เหนื่อยอะไรมากก็บ่นไปเล่น ๆ
อย่างนั้นแหละ นี่เพิ่งจะวันที่ 3 ของการเดินทางเอง แต่เนื่องจากออกเดินทางจากกันมาแต่เช้าในสภาพอากาศ
ที่เย็นยะเยือก เมื่อประตูรถไฟเปิดออก เปิดช่องว่างให้เราพาตัวเองออกไปเจอสิ่งใหม่ๆในโลกภายนอกกันบ้าง


นึกภาพ หญิงชายสองคน ท่าทางร่าเริง กำลังจะกระโดดลงจากรถไฟ เพื่อออกไปชื่นชมอากาศข้างนอก
ที่คิดว่ามันจะสดใสและสดชื่นให้เต็มที่ เย้ ๆๆๆๆๆ Bienvenue.....และแล้ว......

แป่ววววววววส์...

ฟ้าฝนก็ช่างเป็นใจ(ตก) กันดีจริงๆ

แต่...
ฝนที่นี่ไม่เหมือนเมืองไทย (มันไม่เหมือนยังไงว้า) ไม่ได้ตกตูมตาม ก็แค่ปรอยๆ นิดหน่อยเป็นละออง
ว๊า! โชคดีจังเน๊อะ (คิดในแง่ดีไว้ ยังไงก็ยังเดินชมเมืองได้อยู่ ...)

ก่อนอื่นเลย เรายังไม่มีตั๋วสำหรับเดินทางพรุ่งนี้ (คิดถึงพรุ่งนี้ซะแล้วยังไม่ได้เดินวันนี้เลย..เอาน่ะตามมา)
เราตรงไปที่ เคาน์เตอร์ขายตั๋วเพื่อซื้อ "Benelux Tourrail" ที่จะต้องใช้เดินทางข้ามประเทศ
Belgium, Netherlands, Luxembourg (พรุ่งนี้เราจะใช้เดินทางไปเบลเยี่ยม)


"ซื้อตั๋วเบเนลักซ์ ทัวร์เรลค่ะ"

"ตั๋วอะไรนะครับ" พนักงานทำท่าทางงงๆ (เหมือนเราจะขอซื้ออะไรซักอย่างที่เค้าไม่ขาย) หันไปถามเพื่อนพนักงาน
อีกคน แล้วหันกลับมาทำสีหน้าเข้าใจขึ้น อ๋อ ละซิ สงสัยไม่เคยใช้ (เหมือนบ้านเรา มีตั๋วอะไรบ้างเราก็ไม่รู้หรอก)

พอพี่เค้ารู้แล้วว่าเราไม่ได้ขอซื้ออาวุธ แต่มาซื้อตั๋ว ก็พูดต่อว่า
"กรุณาบอกชื่อ-นามสกุลด้วยครับ" (เอาไปทำไม พอได้ตั๋วก็ถึงจะเข้าใจ เพราะเค้าพิมพ์ชื่อเราบนตั๋วด้วย)

พวกเราสะกดให้ กลัวเค้าจะพิมพ์ไม่ถูก ก็ชื่อของพวกเราที่เราคิดว่าเขียนง่ายจะตายยังไม่รู้อีก แต่ด้วยที่ชื่อ
ไม่เหมือนญาติ ๆ เค้าทำให้เค้าคงจะยากที่จะสะกดถูกแน่นอน เอามานี่เขียนให้ดูซะเลย....
(ตอนนั้นพูดด้วยความสุภาพนะ อิๆๆๆ)

"เรียบร้อยแล้วครับ" เค้ายื่นตั๋วให้พวกเรา "ใบละ 122 ยูโร ทั้งหมดก็ 244 ยูโรครับ"
(ดูหน้าตาตั๋วและวิธีใช้งาน คลิกที่นี่จ้ะ)


ก่อนจะจ่ายตังค์ พี่คุณคนขายตั๋วก็นึกขึ้นได้ ว่าลืมถามว่าเราใช้ตั๋วเมื่อไหร่ ไอ้เราก็ไม่รู้ว่ามันใช้ยังไงในตอนนั้น
เราก็บอกว่าจะใช้พรุ่งนี้ พี่แก ก็ตกใจบอกว่า "Excusez-moi" ขอโทษครับ ผมพิมพ์ตั๋วให้คุณผิดแล้วละ
ว่าแล้วก็แย่งตั๋วเราืคืนไป....

พวกเราหันมองหน้ากัน จริงๆแล้ว จะเริ่มใช้เดินทางไป เบลเยี่ยมพรุ่งนี้นี่ เลยบอกเค้าไปว่า พรุ่งนี้ วันที่ 21 เมษา
พนักงานใจดีมากๆๆ บอกว่า จะพิมพ์ให้ใหม่ เปลี่ยนวันที่เป็นเริ่มเดินทาง 21 เมษา

เราก็นึกว่า ถ้าเริ่มซะวันนี้โดยที่เรายังไม่ใช้เดินทาง ก็จะขาดทุนไป 1 วัน จาก 5 วัน จะเหลือ 4 วัน

แต่เค้าก็อธิบายทีหลังว่า ตั๋วนี้ใช้ได้ภายใน 1 เดือน และเลือกเดินทางได้ 5 วัน ถ้าเริ่ม 21/04 ก็จะเลือกใช้ได้ถึง
วันสุดท้ายคือ 20/05 แต่เค้าก็ใจดี๊...ใจดี พิมพ์ใบใหม่ให้ พวกเราก็ถึงบางอ้อ! (อันที่จริงก็ไม่ต้องพิมพ์ใหม่ก็ได้
เพราะคงใช้แค่ 5 วันใกล้ๆนี้ ไม่ได้กระโดดไปไหนไกล พวกเราคิดในใจ... แต่น้ำใจจากต่างแดนเช่นนี้ ก็ทำให้
หัวใจคนเดินทางอย่างเราชุ่มชื้นได้ )



9.00 น. - จากนั้น จะไปไหนก่อนดี ทำไงดีล่ะ
วันนี้จะต้องเดินหา Youth Hostel ซะด้วย แต่ข้อมูลในเนตบอกว่า ให้เช็คอินได้ตั้งแต่บ่ายโมงเป็นต้นไป นี่ก็เพิ่งจะ
9 โมงเช้าเอง
รู้ว่า ต้องนั่งรถบัสสาย 9 ไป แต่ถ้ามัวไปเดินหาอยู่ก็กลัวจะเสียเวลาไปมาก สัมภาระก็หนักอึ้งขนาดนี้ มองหาล๊อกเกอร์ให้เช่าแถวนี้ดีกว่า


ล็อกเกอร์ ที่พึ่งพายามยากและหนักอึ้ง (เพราะกระเป๋าที่แบก) สำหรับนักเดินทาง backpack ทุกคน
โดยเฉพาะพวกเรา


โชคยังดีที่มีตู้ล็อกเกอร์ให้เช่าที่สถานีรถไฟ เพื่อนเคยบอกว่า โดยส่วนมากจะมีล็อกเกอร์ให้เช่าเกือบทุกประเทศ
ล็อกเกอร์ที่นี่ ทันสมัยไฮเทคมาก (จนต้องหาวิธีใช้กันซักหน่อย วิธีก็คือทำตามตัวอย่างคนอื่น ๆ ที่เค้าทำกัน)

1. เลือกตู้ล็อกเกอร์ที่ชอบ ตามขนาดของที่ต้องการ มีสามขนาดทั้ง เล็ก กลาง ใหญ่
   
พวกเราเลือกไซส์กลางสำหรับใส่กระเป๋าแ๊บ๊ีกแพคใบใหญ่ได้สองใบ
2. เลือกขนาดแล้ว เลือกเบอร์ตู้ ชอบใจเบอร์ไหน เอาของใส่ตู้ ปิดล็อค
3. ถัดไปอีกนิดจะเจอที่หยอดเรียญ ซึ่งจะขึ้นราคาให้ (ตู้ไหนถูกล็อคก็จะรู้ทันที)
4. หยอดเหรียญให้ครบตามจำนวน เตรียมเหรียญไว้หน่อยก็ดีนะ ถ้าคิดว่าจะใช้ตู้เก็บของ
5. ตู้จะปริ๊นซ์รหัสกับหมายเลขตู้ สำหรับเปิดตู้มาให้ เพราะไม่ไ่ด้ใช้ระบบกุญแจ

(เดี๋ยวตอนมาเอาจะบอกว่า เจ้าล็อกเกอร์นี้จะคิดราคา่เป็นชั่วโมงหรือเปล่า หรือนานเท่าไหร่ก็ได้ แต่เปิดแล้วปิดใหม่ เสียตังค์อีกรอบแน่นอน)

เอาละตัวเบาสบาย เหมาะแก่การเดินทอดน่องชมเมืองแล้ว....งั้นไปตะลุยเมืองกัน...
ละอองฝนโปรยปราย หนาวเชียว ก่อนที่จะออกจากการ์ (ภาษาฝรั่งเศสที่พวกเราติดปาก แปลว่าสถานีรถไฟ
หลายคนคงจะเจอจากตอนที่ผ่านมาบ้างแล้ว)

ไม่รู้คิดถูกคิดผิด เข้าไปถามข้อมูลที่สำนักงานท่องเที่ยว เกี่ยวกับรายละเอียดพร้อมทั้ง
แผนที่เมือง เจ้าหน้าที่ที่่นี่เค้าใจดี แผนที่ก็ให้ฟรี แถมอธิบายซะละเอียด พอหยิบแผนที่
มาปุ๊บ กาจุดโน้น ลากมาจุดนี้ วนสามรอบ แล้วมาจบที่สะพานใหญ่ เฮ้อ... เห็นภาพเลย
(โดยไม่้ต้องพูดมาก เพราะพูดมากก็นะ ฮิๆ)
แต่ยังไงก็ประทับใจในมิตรไมตรีของผู้คน
เมืองนี้มาก


9.30 น. - ยังเช้าๆอยู่ แถมเป็นวันอาทิตย์ เลยเงียบเชียบเป็นพิเศษ


... แว๊บไปวาดรูปแผนที่คร่าวๆ มาให้ดูกัน จะได้นึกภาพออกว่า พวกเราเดินจากไหน ไปไหนบ้าง ^_^ ...


เมืองใหม่ เมืองเก่า และเมืองล่าง

ก่อนอื่นเลย พอเปิดแผนที่ และทำความเข้่าใจ
ก็จะรู้ว่าเมืองลักซ์เซมเบิร์กนี้ มี 3 ส่วนด้วยกัน
ของตัวเมือง ทั้ง เมืองใหม่ เมืองเก่า และเมืองล่าง

ซึ่ง เมืองล่าง จะเป็นส่วนของเมืองที่อยู่ต่ำลงไป
เนื่องจากตัวเมืองทั้งหมดตั้งในอยู่ในหุบเขา
และเป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์จากองค์การ
UNESSCO

เมืองเก่า คือ บริเวณที่ประกอบด้วย บ้านเรือน
และตึกที่สร้างตั้งแต่สมัยอดีต

เมืองใหม่ คือ บริเวณที่ประกอบด้วย อาคารบ้านเรือน
ที่เพิ่งก่อสร้างขึ้นใหม่ ในช่วงหลัง

ฉะนั้นตัวเมืองลักเซมเบิร์กที่มีความสูงลดหลั่น
กันไปตั้งแต่ 230-408 เมตร ทำให้บางครั้งที่เราเดิน
ในเมือง เราอาจต้องเดินขึ้นเนินเขาบ้าง ต้องเดินลง
บ้าง จนเป็นที่แซวกันว่า คนที่นี่ท่าจะเดินที่ราบไม่เป็น
กระมัง ^_^)


[เลื่อนเมาส์ไปบนรูปเพื่อดูชื่อสถานที่ อ่านประกอบกับเรื่องเล่า...จะไปเที่ยวได้สนุกขึ้นจ้ะ
ส่วนรูปทั้งหมดดูได้ที่เมนู Photos ข้างบนจ๊ะ มีทั้งวิวสวยๆ ทั้งวิวทั้งคน สนใจก็คลิกเข้าไปได้เลย]

ถึงสถานีรถไฟแล้ว ข้างนอก หนาวๆจัง ขอไออุ่นจากร้านนี้หน่อยนะคะ สถานีรถไฟ ออกแบบสวยงามจริงๆ
Caisse d'epargne Pont Adolphe
รถไฟเล็กวิ่งชมบริเวณรอบๆนั้น


เมืองใหม่


• •
จาก สถานีรถไฟ Gare de Luxembourg
เดินมาเรื่อยๆ ผ่าน Caisse d'epargne
คล้ายๆธนาคารออมสิน บ้านเรา แต่ใหญ่โตมาก
ตกแต่งสวยงาม ข้างหน้าปลูกดอกไม้สีชมพู
บานเต็มต้นไปหมด สวยสดชื่นดี

เดินเลียบ สะพาน Adolphe (Pont adolphe)
สร้างสมัย 1900-1908 เพื่อเชื่อมระหว่างเมืองเก่า และ
เมืองใหม่ เดินลงไปเที่ยวเล่นดูทิวลิปหลากสีไม่นานนัก
ตรงส่วนนี้ มีรถไฟเล็กๆ สำหรับนั่งชมรอบๆด้วย
• •



เมืองลักเซมเบิร์กสร้างบนที่ราบ Bock ระหว่างช่องเขา Alzette และ แม่น้ำ Petrusse ถือเป็นชัยภูมิที่เหมาะยิ่ง
ในการป้องกันการรุกรานจากศัตรู เมืองเก่าและเมืองใหม่ของลักเซมเบิร์กจึงถูกแยกออกจากกัน อย่างเห็นได้ชัด
ในค.ศ. 1899 มีการสร้างสะพาน Adolphe เพื่อเชื่อมสู่เมืองใหม่ ส่วนเมืองเก่าของลักเซมเบิร์กถูกประกาศให้เป็น
มรดกโลกเมื่อปีค.ศ. 1994 ที่ผ่านมา


ยังเดินเลียบสะพาน Adophe มาเรื่อยๆ เอาล่ะ... กางแผนที่ จะไี้ปไหนกันต่อดี พร้อมลุย

• •
โบสถ์ น็อต-เทรอ-ดาม (Church of Our Lady
-
Cathedrale de Notre-Dame)
ขณะนั้น
ทำพิธีอยู่ เป็นวันอาทิตย์พอดี เข้าไปได้ไม่นาน
ก็ออกไปที่อื่นกันต่อ

เดินกลับออกมา ข้างๆนั้นเป็นห้องสมุดแห่งชาติ
(La Bibliotheque Nationale)
มาถึง Place Claire Fontaine ที่นี่มีรูปปั้น
Grand-Duchess Charlotte ซึ่งสร้างเพื่อเป็น
อนุสรณ์เพราะเป็นที่รักของชาวเมืองนี้มาก

ดูจากแผนที่แล้ว Youth Hostel อยู่ไม่ไกลจากน
ี้แล้วลองเดินไปดูเรื่อยๆดีกว่า เจอแล้วป้ายเขียนว่า
Youth Hostel - Auberges de Jeunesse
เป็นตึก 3 ชั้น ข้างสะพานใหญ่ (เมืองนี้สะพานเยอะ
จริงๆ แถมใหญ่ๆ ไม่ใช่เล่น) นี่ต้องเดินลงบันได
ไปอีก โห... นี่ถ้าตอน เอาเป้ใบใหญ่มาด้วย
จะแบกไหวมั๊ยเนี่ย ชันไม่เบาเลยแฮะ...
ตอนนี้ก็เที่ยงกว่าๆแล้ว ลองแวะ เข้าไปเช็คอินดีกว่า
เผื่อจะได้

Church of Our Lady
Grand-Duchess Charlotte Unessco 1994 เดินชมเมืองเก่า
มองลงไปยังเมืองล่าง เจอแล้ว ที่พักของพวกเรา
 


• • • •
 

..... ไปเช็คอินที่พัก .....
โชคดีจัง เจ้าหน้าที่อยู่พอดีเลย หลังจากเจรจากันเรียบร้อย ก็ได้ห้องพักมา เข้าไปดูหน้าตาที่พักได้ที่นี่ (คลิก)
เอาล่ะ... โล่งใจแล้ว คืนนี้มีที่พักแล้ว เย... เย้... แฮ่กๆ หอบเลยล่ะ เดินขึ้นบันไดมา


คราวนี้เดินมาที่จุดชมวิว มุมนี้จะมองเห็นตัวเมืองกว้างมาก ซึ่งบ้านเรือนจะสร้างในระดับต่ำลงไป นี่คงเรียกว่า
เมืองล่าง นักท่องเที่ยวพากันยืนชื่นชม บ้างก็ถ่ายรูป บ้างก็จดบันทึก และเก็บภาพประทับใจกันไป ...

จากจุดนี้มองเห็น Pont Grand Duchess Charlotte 289 m สีแดงสด เป็นเส้นทางเดินรถ ที่มองเห็นแต่ไกล
จากบริเวณเมืองเก่า ตอนนี้อากาศเริ่มดีขึ้นแล้ว เมฆเริ่มจางหายไป แสงแดดอ่อนๆเข้ามาแทนที่
เสียงโคร่กโคร่กจากท้องที่กำลังประท้วงกันใหญ่ หิวจังแฮะ ไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า
เดี๋ยวบ่ายๆ จะลงไปเดินเล่นที่ เมืองล่าง แต่ตอนนี้ขอพักเดี๋ยวนึงก่อนนะคร้าบ

เรามุ่งหน้าหาอะไรรองท้องก่อนเลย แต่ร้านอาหารต่าง ๆ อยู่ในเมืองระหว่างทางเราก็เดินชมจุดต่าง ๆ
ระหว่างทางไปในเมือง...

 
อากาศดีขึ้นมากแล้ว Pont Grand Duchess Charlotte Palais Grand Ducal
Place Guillaume
Place d'armes คนแต่งตัวยืนแข็งนิ่ง Dicks-Lentz Monument

ผ่านพระราชวังของท่านดยุค (Palais Grand Ducal)
สร้างกลางศตวรรษที่ 18 สีน้ำตาลอ่อนของตัวตึกเด่น
งดงามมาก แต่ให้ชมแต่ภายนอก ไม่อนุญาตให้เข้าไป
เพราะเป็นราชวังที่ใช้งานอยู่ พวกเราเลยได้แต่
เก็บภาพรอบ ๆ มาเป็นที่ระลึก

ผ่าน Place Guillaume, Place d'Armes ลานกว้าง
สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ เพราะรอบ ๆ เป็นร้านค้าและ
สถานที่สำัคัญและที่สำคัญคือร้านอาหาร....

มาเที่ยวหน้าใบไม้ผลิ ก็สดชื่นตาอย่างนี้ แต่ละที่ปลูก
ดอกไม้ สีสดหลากหลายมาก
"โน่นๆ! คนมุงดูอะไรกันแถวนั้น"
"นั่นสิ ลองเดินไปดูกันดีกว่าเนอะ"
"อ้อ! คนแต่งตัวคล้ายรูปปั้นและยังยืนแข็งนิ่ง
ยิ่งทำให้ดูเหมือนรูปปั้่นมาก"



พวกเราไม่แปลกใจ มากนักกับการแสดงนี้ อาจจะเป็น เพราะคุ้นตามาบ้างแล้ว แต่ก็ยืนดูอยู่เป็นนานสองนาน
เพราะทึ่งในความอดทนของพวกเค้าจริงๆ เพราะตลอดหลายนาที ที่ยืนดู เค้ายืนนิ่งไม่ไหวติง มีหลายคนให้
เหรียญเค้าเป็นการให้กำลังใจและแกล้งแหย่ แต่เค้าก็ยังไม่ไหวติ่ง คนนี้เค้ามีป้ายบอกว่าได้ไปแสดงเรื่อง
Amelie Poulain ด้วยนะ

ชมรูปปั้นสิงโต Dicks-Lentz Monument กวีเอกที่มีชื่อเสียงมากของเมืองนี้ด้วย


• •
• •


อาจเป็นเรื่องง่ายที่จะผ่านเลยประเทศเล็กๆ อย่างลักเซมเบิร์กในแผนการเดินทางท่องยุโรป แต่นั่นคงทำให้เรา
พลาดประสบการณ์ดีๆ ไปได้เหมือนกัน ด้วยขนาดพื้นที่ทั้งประเทศที่ยาวเพียง 82 กิโลเมตร กว้าง 56 กิโลเมตร
แต่ก็คือยุโรปย่อส่วน ที่เต็มไปด้วยปราสาทที่ได้รับการบูรณะ เมืองที่มีโบสถ์เป็นศูนย์รวมของผู้คน เขตปลูกไวน์์
ชั้นยอด แม่น้ำ ขุนเขา เส้นทางเดินป่าธรรมชาติ และผู้คนหลายหลากภาษาพูด แต่ด้วยทำเลที่ตั้งในใจกลางยุโรป


คือสัญลักษณ์ของท่านดยุคแห่งลักเซมเบิร์ก ประเทศลักเซมเบิร์กมีชื่อเต็มว่า The Grand Duchy of
Luxembourg หรือราชรัฐลักเซมเบิร์ก ปกครองโดยใช้ระบบรัฐธรรมนูญ มีแกรนด์ดยุกเป็นประมุขสูงสุด
(คำว่า duchy หมายถึง เขตแดนในความครอบครองของดยุก) อำนาจบริหารอยู่ในมือของแกรนด์ดยุก
และคณะรัฐมนตรี

• • • •

ผ่านร้านโปสการ์ดเยอะแยะเลย เลือกซื้อมาเป็นที่ระลึกสามสี่ใบ...
โปสการ์ดที่นี่นอกจากจะเป็นรูปวิว และสถานที่สำคัญต่างๆแล้ว ยังมีโปสการ์ดรูปท่านดยุคและครอบครัว ทั้งรูปเดี่ยวและรูปครอบครัว ขายทั่วไปให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อกันอีกด้วย

เหนื่อยกันหรือยัง... อย่าเพิ่งเมื่อยนะ เราจะไปเดินกันต่อ ต่อ ต่อ...

หน้าถัดไป : ความสุขหาได้... ง่ายจัง