•
ความลับที่ซ่อนไว้ของยุโรปที่ลักซ์เซมเบิร์ก
•
ปล่อยให้ความคิดความรู้สึกล่องลอยออกไปทักทายโลกใบใหม่นอกหน้าต่างบ้าง
กับ...
ปล่อยให้เจ้าความคิดพักผ่อนอยู่เงียบๆ
สองอย่างนี้ คือ กิจกรรมของพวกเราบนรถไฟ (อ่านแล้วงงมั๊ย อิๆๆ ง่าย ๆ
ก็คือหลับกับตื่นอยู่นั่นเอง)
พวกเราหลับ ๆ ตื่น ๆ มาช่วงระยะหนึ่ง แล้วต้องมาตื่น (แตกตื่นถึงจะถูก)
เมื่อผ่านด่าน
(รถไฟไม่ได้จอดให้เราลงไปหรอกนะ) มีเจ้าหน้าที่ 2 คน เข้ามาขอดูพาสปอร์ตและวีซ่า
แถมจูงหมาตัวน้อย
พันธุ์น่ารักคล้าย ๆ พุดเดิ้ล (น่ารักแต่ก็สุนัขตำรวจอะน่ะ) มาสำรวจข้าวของผิดกฎหมายด้วย
(โชคดีที่พวกเรา
ไม่ไ่ด้ขนอะไร ที่น่าสงสัยมาด้วย ไม่งั้น...คงแย่) สัมภาษณ์พวกเราเล็กน้อย
ถามว่าจะไปไหน ไปทำอะไร
ไปกี่วัน เป็นนักเรียนรึเปล่า อะไรทำนองนั้น พวกเราตั้งหลักได้ก็ยิ้มก่อนเลย
ก่อนที่จะรวบรวมความกล้า
ตอบคำถามไปอย่างมั่นใจ อิๆๆๆๆ ไม่รู้ละ เราก็ตอบด้วยสำเนียงที่ฟังแล้วดัดจริตที่สุดที่จะทำได้
(เวอร์จริง ๆ)
แต่แล้วเราก็รอดมาได้อย่างปลอดภัย ^_-
หลับบ้างตื่นบ้าง...ไปห้องน้ำก็แล้ว...มองวิวก็แล้ว......แต่แล้วสามชั่วโมงผ่านไปก็มาถึง...
ลักซ์เซมเบิร์ก
พวกเรามาถึงลักเซมเบิร์ก ด้วยความเหน็ดเหนื่อยพอประมาณ ไม่ได้เหนื่อยอะไรมากก็บ่นไปเล่น
ๆ
อย่างนั้นแหละ นี่เพิ่งจะวันที่ 3 ของการเดินทางเอง แต่เนื่องจากออกเดินทางจากกันมาแต่เช้าในสภาพอากาศ
ที่เย็นยะเยือก เมื่อประตูรถไฟเปิดออก เปิดช่องว่างให้เราพาตัวเองออกไปเจอสิ่งใหม่ๆในโลกภายนอกกันบ้าง
นึกภาพ หญิงชายสองคน ท่าทางร่าเริง กำลังจะกระโดดลงจากรถไฟ เพื่อออกไปชื่นชมอากาศข้างนอก
ที่คิดว่ามันจะสดใสและสดชื่นให้เต็มที่ เย้ ๆๆๆๆๆ Bienvenue.....และแล้ว......
แป่ววววววววส์...
ฟ้าฝนก็ช่างเป็นใจ(ตก) กันดีจริงๆ
แต่...
ฝนที่นี่ไม่เหมือนเมืองไทย (มันไม่เหมือนยังไงว้า) ไม่ได้ตกตูมตาม ก็แค่ปรอยๆ
นิดหน่อยเป็นละออง
ว๊า! โชคดีจังเน๊อะ (คิดในแง่ดีไว้ ยังไงก็ยังเดินชมเมืองได้อยู่ ...)
ก่อนอื่นเลย เรายังไม่มีตั๋วสำหรับเดินทางพรุ่งนี้ (คิดถึงพรุ่งนี้ซะแล้วยังไม่ได้เดินวันนี้เลย..เอาน่ะตามมา)
เราตรงไปที่ เคาน์เตอร์ขายตั๋วเพื่อซื้อ "Benelux Tourrail"
ที่จะต้องใช้เดินทางข้ามประเทศ
Belgium, Netherlands, Luxembourg (พรุ่งนี้เราจะใช้เดินทางไปเบลเยี่ยม)
"ซื้อตั๋วเบเนลักซ์
ทัวร์เรลค่ะ"
"ตั๋วอะไรนะครับ"
พนักงานทำท่าทางงงๆ (เหมือนเราจะขอซื้ออะไรซักอย่างที่เค้าไม่ขาย) หันไปถามเพื่อนพนักงาน
อีกคน แล้วหันกลับมาทำสีหน้าเข้าใจขึ้น อ๋อ ละซิ สงสัยไม่เคยใช้ (เหมือนบ้านเรา
มีตั๋วอะไรบ้างเราก็ไม่รู้หรอก)
พอพี่เค้ารู้แล้วว่าเราไม่ได้ขอซื้ออาวุธ แต่มาซื้อตั๋ว ก็พูดต่อว่า
"กรุณาบอกชื่อ-นามสกุลด้วยครับ" (เอาไปทำไม พอได้ตั๋วก็ถึงจะเข้าใจ
เพราะเค้าพิมพ์ชื่อเราบนตั๋วด้วย)
พวกเราสะกดให้ กลัวเค้าจะพิมพ์ไม่ถูก ก็ชื่อของพวกเราที่เราคิดว่าเขียนง่ายจะตายยังไม่รู้อีก
แต่ด้วยที่ชื่อ
ไม่เหมือนญาติ ๆ เค้าทำให้เค้าคงจะยากที่จะสะกดถูกแน่นอน เอามานี่เขียนให้ดูซะเลย....
(ตอนนั้นพูดด้วยความสุภาพนะ อิๆๆๆ)
"เรียบร้อยแล้วครับ" เค้ายื่นตั๋วให้พวกเรา "ใบละ 122
ยูโร ทั้งหมดก็ 244 ยูโรครับ"
(ดูหน้าตาตั๋วและวิธีใช้งาน คลิกที่นี่จ้ะ)
ก่อนจะจ่ายตังค์ พี่คุณคนขายตั๋วก็นึกขึ้นได้ ว่าลืมถามว่าเราใช้ตั๋วเมื่อไหร่
ไอ้เราก็ไม่รู้ว่ามันใช้ยังไงในตอนนั้น
เราก็บอกว่าจะใช้พรุ่งนี้ พี่แก ก็ตกใจบอกว่า "Excusez-moi" ขอโทษครับ
ผมพิมพ์ตั๋วให้คุณผิดแล้วละ
ว่าแล้วก็แย่งตั๋วเราืคืนไป....
พวกเราหันมองหน้ากัน จริงๆแล้ว จะเริ่มใช้เดินทางไป เบลเยี่ยมพรุ่งนี้นี่
เลยบอกเค้าไปว่า พรุ่งนี้ วันที่ 21 เมษา
พนักงานใจดีมากๆๆ บอกว่า จะพิมพ์ให้ใหม่ เปลี่ยนวันที่เป็นเริ่มเดินทาง
21 เมษา
เราก็นึกว่า
ถ้าเริ่มซะวันนี้โดยที่เรายังไม่ใช้เดินทาง ก็จะขาดทุนไป 1 วัน จาก 5
วัน จะเหลือ 4 วัน
แต่เค้าก็อธิบายทีหลังว่า ตั๋วนี้ใช้ได้ภายใน 1 เดือน และเลือกเดินทางได้
5 วัน ถ้าเริ่ม 21/04 ก็จะเลือกใช้ได้ถึง
วันสุดท้ายคือ 20/05 แต่เค้าก็ใจดี๊...ใจดี พิมพ์ใบใหม่ให้ พวกเราก็ถึงบางอ้อ!
(อันที่จริงก็ไม่ต้องพิมพ์ใหม่ก็ได้
เพราะคงใช้แค่ 5 วันใกล้ๆนี้ ไม่ได้กระโดดไปไหนไกล พวกเราคิดในใจ...
แต่น้ำใจจากต่างแดนเช่นนี้ ก็ทำให้
หัวใจคนเดินทางอย่างเราชุ่มชื้นได้ )
•
•
9.00
น. - จากนั้น
จะไปไหนก่อนดี ทำไงดีล่ะ
วันนี้จะต้องเดินหา Youth Hostel ซะด้วย แต่ข้อมูลในเนตบอกว่า ให้เช็คอินได้ตั้งแต่บ่ายโมงเป็นต้นไป
นี่ก็เพิ่งจะ
9 โมงเช้าเองรู้ว่า
ต้องนั่งรถบัสสาย 9 ไป
แต่ถ้ามัวไปเดินหาอยู่ก็กลัวจะเสียเวลาไปมาก สัมภาระก็หนักอึ้งขนาดนี้
มองหาล๊อกเกอร์ให้เช่าแถวนี้ดีกว่า
•
ล็อกเกอร์ ที่พึ่งพายามยากและหนักอึ้ง (เพราะกระเป๋าที่แบก) สำหรับนักเดินทาง
backpack ทุกคน
โดยเฉพาะพวกเรา •
โชคยังดีที่มีตู้ล็อกเกอร์ให้เช่าที่สถานีรถไฟ เพื่อนเคยบอกว่า โดยส่วนมากจะมีล็อกเกอร์ให้เช่าเกือบทุกประเทศ
ล็อกเกอร์ที่นี่ ทันสมัยไฮเทคมาก (จนต้องหาวิธีใช้กันซักหน่อย วิธีก็คือทำตามตัวอย่างคนอื่น
ๆ ที่เค้าทำกัน)
|
1. เลือกตู้ล็อกเกอร์ที่ชอบ ตามขนาดของที่ต้องการ มีสามขนาดทั้ง เล็ก กลาง ใหญ่
พวกเราเลือกไซส์กลางสำหรับใส่กระเป๋าแ๊บ๊ีกแพคใบใหญ่ได้สองใบ
2. เลือกขนาดแล้ว เลือกเบอร์ตู้ ชอบใจเบอร์ไหน เอาของใส่ตู้ ปิดล็อค
3. ถัดไปอีกนิดจะเจอที่หยอดเรียญ ซึ่งจะขึ้นราคาให้ (ตู้ไหนถูกล็อคก็จะรู้ทันที)
4. หยอดเหรียญให้ครบตามจำนวน เตรียมเหรียญไว้หน่อยก็ดีนะ ถ้าคิดว่าจะใช้ตู้เก็บของ
5. ตู้จะปริ๊นซ์รหัสกับหมายเลขตู้ สำหรับเปิดตู้มาให้ เพราะไม่ไ่ด้ใช้ระบบกุญแจ
|
(เดี๋ยวตอนมาเอาจะบอกว่า เจ้าล็อกเกอร์นี้จะคิดราคา่เป็นชั่วโมงหรือเปล่า
หรือนานเท่าไหร่ก็ได้ แต่เปิดแล้วปิดใหม่ เสียตังค์อีกรอบแน่นอน)
เอาละตัวเบาสบาย เหมาะแก่การเดินทอดน่องชมเมืองแล้ว....งั้นไปตะลุยเมืองกัน...
ละอองฝนโปรยปราย หนาวเชียว ก่อนที่จะออกจากการ์ (ภาษาฝรั่งเศสที่พวกเราติดปาก
แปลว่าสถานีรถไฟ
หลายคนคงจะเจอจากตอนที่ผ่านมาบ้างแล้ว)
ไม่รู้คิดถูกคิดผิด
เข้าไปถามข้อมูลที่สำนักงานท่องเที่ยว เกี่ยวกับรายละเอียดพร้อมทั้ง
แผนที่เมือง เจ้าหน้าที่ที่่นี่เค้าใจดี แผนที่ก็ให้ฟรี แถมอธิบายซะละเอียด
พอหยิบแผนที่
มาปุ๊บ กาจุดโน้น ลากมาจุดนี้ วนสามรอบ แล้วมาจบที่สะพานใหญ่ เฮ้อ...
เห็นภาพเลย
(โดยไม่้ต้องพูดมาก เพราะพูดมากก็นะ ฮิๆ) แต่ยังไงก็ประทับใจในมิตรไมตรีของผู้คน
เมืองนี้มาก
|
 |
9.30 น. - ยังเช้าๆอยู่ แถมเป็นวันอาทิตย์ เลยเงียบเชียบเป็นพิเศษ
... แว๊บไปวาดรูปแผนที่คร่าวๆ มาให้ดูกัน จะได้นึกภาพออกว่า พวกเราเดินจากไหน ไปไหนบ้าง ^_^ ...
•
เมืองใหม่
เมืองเก่า และเมืองล่าง •
ก่อนอื่นเลย
พอเปิดแผนที่ และทำความเข้่าใจ
ก็จะรู้ว่าเมืองลักซ์เซมเบิร์กนี้ มี 3 ส่วนด้วยกัน
ของตัวเมือง ทั้ง เมืองใหม่ เมืองเก่า และเมืองล่าง
ซึ่ง เมืองล่าง จะเป็นส่วนของเมืองที่อยู่ต่ำลงไป
เนื่องจากตัวเมืองทั้งหมดตั้งในอยู่ในหุบเขา
และเป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์จากองค์การ
UNESSCO
เมืองเก่า คือ บริเวณที่ประกอบด้วย บ้านเรือน
และตึกที่สร้างตั้งแต่สมัยอดีต
เมืองใหม่ คือ บริเวณที่ประกอบด้วย อาคารบ้านเรือน
ที่เพิ่งก่อสร้างขึ้นใหม่
ในช่วงหลัง
ฉะนั้นตัวเมืองลักเซมเบิร์กที่มีความสูงลดหลั่น
กันไปตั้งแต่ 230-408 เมตร ทำให้บางครั้งที่เราเดิน
ในเมือง เราอาจต้องเดินขึ้นเนินเขาบ้าง ต้องเดินลง
บ้าง จนเป็นที่แซวกันว่า คนที่นี่ท่าจะเดินที่ราบไม่เป็น
กระมัง ^_^)
|
 |

[เลื่อนเมาส์ไปบนรูปเพื่อดูชื่อสถานที่
อ่านประกอบกับเรื่องเล่า...จะไปเที่ยวได้สนุกขึ้นจ้ะ
ส่วนรูปทั้งหมดดูได้ที่เมนู Photos ข้างบนจ๊ะ มีทั้งวิวสวยๆ ทั้งวิวทั้งคน
สนใจก็คลิกเข้าไปได้เลย]