ของฝากจากบรูจ Photos Postcards Guestbook
 
อ่านบันทึกเล่าสู่กันฟัง
เยอรมัน
ฝรั่งเศส
ลักซ์เซมเบิร์ก

<NEW!> เนเธอแลนด
เบลเยี่ยม

 



ไปเมืองต่างๆของเบลเยี่ยม
Brugge <updated!>
Antwerpen
Gent
Brussels



อบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก...ตอนนั่งริมน้ำ
อยากรู้ไหมว่า ฉันนั่งทำอะไร ฉันนั่งอยู่เฉยๆ...
ให้ลมเย็นๆพัดมากระทบตัว นั่งมองน้ำในแม่น้ำไหลไปเรื่อยๆ
มองผู้คนบนเรือที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
มองเรือที่ค่อยๆเคลื่อนไปช้าๆ
แล้วอมยิ้ม...



นั่งอมยิ้มยังไม่ทันเมื่อย ก็เดินมา ผ่านย่านภาพวาด Steenhouwersdijk และจะเห็น สะพานที่เก่าแก่ที่สุด
2 สะพาน ชื่อ Meebrug & Peerdenbrug เมื่อเดินไปจนสุดทางจะเป็นเขต Groenerei

และผ่านร้านชอกโกแลตมากมาย เบลเยี่ยมขึ้นชื่อด้านชอกโกแลตและวาฟเฟิล ตามร้านชอกโกแลตจะตกแต่งร้าน
และจัดชอกโกแลตได้น่ากินมาก แถมชอกโกแลตมีหลากหลายชนิด ทำเป็นรูปต่างๆ อย่างที่เห็นอันนึง
เป็นรูปกรรไกรอันใหญ่ขนาดเท่าของจริง เห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ ก็แปลกไปอีกแบบ ฮ่าๆ แบบที่น่ารักๆก็มีนะ
บรรยายไม่หมดเลยล่ะ



เมื่อดวงอาทิตย์ย้ายตำแหน่งทำมุมกับพื้นโลกด้วยองศาที่เพิ่มขึ้น
บรรยากาศครึ้มฝนตะกี้... ก็ค่อยๆถูกแทนที่ด้วยแสงแดด
ถนนและทางเดินกลับมาคึกคักด้วยผู้คนอีกครั้ง
เหมือนกับว่าบรรยากาศเหงาๆเมื่อตอนสายๆ

เป็นเพียงแค่ฝันไป...



เดินผ่านทางเล็กๆ ชื่อ Blinde Ezelstraat ทะลุออกมาที่ลานกว้าง เป็นลานที่สวยอีกที่นึงของเมืองนี้
ชื่อ Burg square (Burg Place)

จตุรัสนี้ ทั้งสี่ด้านเต็มไปด้วย อาคารสวยงาม ทั้งสถานที่สำคัญ และร้านค้า ร้านกาแฟ ผู้คนนั่งจิบกาแฟ
อ่านหนังสือพิมพ์ คุยกัน ผ่อนคลายอารมณ์

พวกเราก็เดินสำรวจความสวยงามของบริเวณนี้ มันสวยเหมือนภาพวาด และฝันอยากจะได้เห็น
จะเก็บภาพมุมไหนดีนะ เพราะมันทั้งสวยและรวยเสน่ห์จริงๆ
ทั้งผู้คนก็ยิ้มแย้ม ช่วยเติมแต้มบรรยากาศสบายๆแบบนี้

อาคาร Ancien Greffe Civil -1534-1537 ที่เดินผ่านมาเป็นศิลปะแบบ Renaissance
รูปปั้นสีทองบนยอดอาคาร คือ รูปปั้นแทนผู้ทรงความยุติธรรม Moses และ Aaron
ทั้งตัวอาคารงดงาม สีทองสุกปลั่งกระทบแดดอ่อนๆ ยิ่งทวีความงดงามยิ่งขึ้น
พวกเราหยุดยืนดูอยู่นานสองนาน หัวใจติดปีกบินมาไกลขนาดนี้ ซึบซับให้เต็มตาเต็มหัวใจไปเล้ย

[เลื่อนเมาส์ไปบนรูปเพื่อดูชื่อสถานที่ อ่านประกอบกับเรื่องเล่า...จะไปเที่ยวได้สนุกขึ้นจ้ะ
ส่วนรูปทั้งหมดดูได้ที่เมนู Photos ข้างบนจ๊ะ มีทั้งวิวสวยๆ ทั้งวิวทั้งคน สนใจก็คลิกเข้าไปได้เลย]

ผ่านย่านภาพวาด Steenhouwersdijk รูปกรรไกรอันใหญ่ขนาดเท่าของจริง เห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได
เดินผ่านทางเล็กๆ ชื่อ Blinde Ezelstraat Ancien Greffe Civil City Hall
The Chapel of the Holy Blood



- City Hall (Hotel de Ville) ดูเผินๆ หน้าตาคล้าย
Government Palace เป็นหนึ่งใน City Hall
ที่เก่าแก่ที่สุด ก่อสร้างด้วยศิลปะแบบ Gothic
งดงามมาก

บรรยายยังไง ก็สวยไม่เท่าของจริง เอาเป็นว่า
ดูรูปประกอบไปด้วยแล้วกันจ๊ะ


ส่วนมุมขวา คือ The Chapel of the Holy Blood
(Basilique du Saint-Sang)
   
อย่าเพิ่งปวดหัวกับศิลปะหลากหลายยุคของที่นี่ซะก่อนนะ อันที่จริง ตอนไปดูก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก
แต่ก็มาอ่านเพิ่มเติมอีกที มีข้อมูลเพิ่มขึ้นเลยใส่ลงไปด้วยน่ะ


งานฝีมือ ผ้าลูกไม้ของฝากจากบรูจ
ว่าแล้ว ก็เปลี่ยนบรรยากาศไปดูงานฝีมือที่ระลึก
ของเมืองนี้ดีกว่า นั่นก็คือ ผ้าลูกไม้ (Lace)


ภาพจากเวบ ขอบคุณ Franciss Toussaint



วิธีการก็น่าสนใจไม่น้อยเลย คือ จะมีเข็มหมุดปักไว้เรียงกันบนแผ่นไม้
แล้วเอาด้ายแต่ละไจร้อยเอาไว้ ไขว้ไปมาให้เป็นลวดลายที่ออกแบบไว้
(แต่ก็ไม่ใช่จะง่ายๆ งานทุกชิ้นล้วนอาศัยความชำนาญ และประณีต และที่สำคัญ ใจรัก)
ช่างน่าทึ่งจังเลย อธิบายวิธีการแล้วยังไม่เห็นภาพเท่าไหร่ ดูภาพประกอบแล้วกันนะ



ผ่าน museum นึงแวะเข้าไปแป๊บๆ ออกมาหาอะไรหวานๆกินดีกว่า

หนึ่งในสมาชิก แจงอยากลองชิม Florentine เลยได้โอกาสเข้าไปในร้านตกแต่งสวยงาม ทุกอย่างดูน่ากิน
น่าซื้อไปหมด สามารถซื้อเป็นชิ้นๆ เพราะเค้าจะขายเป็น ขีดๆ ชั่งกิโลคำนวณราคาตามน้ำหนัก ก็ได้
หรือซื้อเป็นกล่องที่บรรจุขายก็ได้ ที่เห็นเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลยคือ จะบรรจุกล่องอลูมิเนียม รูปอาคาร
ยุคสมัยกลางที่หลังคาเป็นขั้นๆน่ะล่ะ ทาสีสวยตั้งเรียงบนชั้น สวยงาม น่าซื้อ

ร้านค้าต่างๆที่นี่ก็สวยไม่แพ้สถาปัตยกรรมเก่าแก่ของที่นี่เลย



เช่นร้านนี้ สาวเจ้ายืนรออะไรอยที่หน้าต่างนี้นะ
คงไม่ใช่พวกเราหรอกนะ ฮิๆ

ถ้าอยากรู้ ก็รอดูรูปใน Photos นะ
ไม่เฉลยในนี้ เดี๋ยวไม่ลุ้น ฮิๆ

มาถึงที่ที่ให้อาหารม้าแล้ว ยืนดูอยู่สักพัก
ม้าน่ารักดี ใกล้ๆกันเป็นสวนที่มีหงส์ืเยอะมากๆ
อยู่บนดินกันเยอะเลย

" น่ารักดี อยากเอาี้ไปเีลี้ยงที่บ้านจังง่ะ..."
ฉันคิดในใจ คุณป้าข้างๆความรู้สึกไวมาก
หันมามองตาเขียวเลย ฮิๆ

ผ้าลูกไม้ (Lace) ผ่าน museum นึงแวะเข้าไปแป๊บๆ
จะบรรจุกล่องอลูมิเนียม รูปอาคาร ยุคสมัยกลาง ทุกอย่างดูน่ากิน น่าซื้อไปหมด
สาวเจ้ายืนรออะไรอยที่หน้าต่างนี้นะ สวนที่มีหงส์ืเยอะมากๆ มาถึงที่ที่ให้อาหารม้าแล้ว
   
Ter Weyngaerde
สวนดอกไอริสเยอะไปหมด สวนดอกไอริสเยอะไปหมด
บริเวณนี้เป็นบ้านที่พักอาศัยของแม่ช หาความชุ่มชื่น ชุ่มฉ่ำ ไอเย็นๆ กับความเขียวของต้นไม้ใบหญ้า


อยากหาที่สงบร่มรื่น หลีกหนีความวุ่นวาย ต้องมาที่นี่
The princely beguinage of the Vineyard
"Ter Weyngaerde" (Beguinage Princier
de la Vigne)
ถูกค้นพบในปีั 1245


บริเวณนี้เป็นบ้านที่พักอาศัยของแม่ชี และมีโบสถ์
อยู่ด้วย ซึ่งปัจจุบันก็ยังใช้งานอยู่ บริเวณนี้มีต้นไม้ใหญ่
และสวนดอกไอริสเยอะเ็ป็นลานกว้าง
น่าเสียดายที่ตอนนี้ มันโรยลงไปเยอะแล้ว






มื้อเย็นก่อนกลับ Youth Hostel แวะหาอะไรกิน มาตกลงปลงใจที่ร้านนึง เพราะมีที่ให้เลือกไม่มากนัก
เพราะทุ่มกว่าแล้ว ร้านค้าที่นี่ปิดกันเร็วจัง 6 โมงก็ปิดแ้ล้ว บางร้าน 5 โมงครึ่ง พวกเรากินน่องไก่ทอด
กับไก่สับชุบแป้งทอด ร้านอาหารแถวนี้ชายของพวกชุบแป้งทอดโน่นนี่เยอะเหมือนกัน เป็นเมนูที่แปลกไปอีกแบบ

ก่อนกลับเข้าที่พัก ก็เดินผ่านเ้ข้าไปในสวน หาความชุ่มชื่น ชุ่มฉ่ำ ไอเย็นๆ กับความเขียวของต้นไม้ใบหญ้า
เติมเต็มให้ชีวิตท่องเที่ยว กับคุณค่าของธรรมชาติอย่างนี้...



ตกใจ!...ใครกันอยู่ในห้อง ?

ณ เคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่

กลับมาจากไปเที่ยวตัวเมืองบรูจ ทางด้าน กำลังจะเดินไปยังห้องพัก พอผ่านเคาน์เตอร์ ก็ได้ยิน สาวเอเชีย (มารู้ตอนหลังว่าเป็นสาวเกาหลี) อายุน่าจะไม่เกิน 25 ปี
คุยกับเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์

 





สาวเกาหลี : มีผู้ชายอยูี่ในห้องชั้นค่ะ
เจ้าหน้าที่ : เป็นไปได้ไง คุณเห็นเค้าอยู่ในห้องหรือเปล่าคะ
สาวเกาหลี : ไม่เห็นหรอกค่ะ แต่ฉันเห็นกระเป๋าเป้ใบใหญ่มากกกก...
  ยังมีรองเท้าผ้าใบ กับหมวกด้วยค่ะ

มาถึงตอนนี้ สี่คนครื้นเครงเพื่อนๆ ร่วมทริปของเราหันมามองหน้ากันแล้วยิ้มด้วยความมีเลศ-ศะ-นัย
เราชักเอะใจแล้วล่ะ คุ้นๆนะ เป้เราก็ไม่ธรรมดา แถมก่อนออกไปเดินเล่น ยังเปลี่ยนรองเท้าผ้าใบไว้ (ไซส์ก็ยักษ์)
แล้วใส่รองเท้าแตะไปเดิน แถมหมวกก็ไม่ได้เอาไปอีก

สาวเกาหลี : งั้นเหรอคะ คุณพักห้องหมายเลขอะไรคะ เดี๋ยวดิฉันจะตรวจดูให้
เจ้าหน้าที่ : ห้องหมายเลข 7 ค่ะ


เอ้า!! แม่นแล้ว...


หลังจากนั้น เค้าคุยอะไรกันต่ออีกไม่รู้ แต่เรากับแจงก็เดินไปเข้าห้องแล้ว


ในเวลาต่อมา...
ตัดภาพมายัง ณ ห้องพักหมายเลข 7

สาวเกาหลี : สวัสดีค่ะ... อ้อ เอ้อ อ้ะ เธอก็เป็นเจ้าของเป้ใบใหญ่นั้นเหรอ
จ๊ะเอ๋ : สวัสดีจ้ะ ใช่แล้วค่ะ ของฉันเองล่ะ
(ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่า ฉันได้ยินที่เธอไปถามเจ้าหน้าที่ตะกี้ เค้าจะได้ไม่เขินไง)
สาวเกาหลี : โอ..อ้อ อ้อ


สาวเกาหลีก็ อ้อ อ้อ ไปอีกสี่ห้าครั้ง สงสัยยังอึ้งตะลึงงันอยู่ แล้วเราก็คุยกันเรื่องอื่นๆ
ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ร่วมห้องกันต่อ




นี่ล่ะค่ะ ที่ไปเที่ยวมาวันนี้ เอาไว้จะเขียนมาเล่าให้ฟังใหม่
ทริปวันนี้ สนุกสนานคุ้มค่าจริงๆค่ะ เต็มตาเต็มใจ ดูมีชีวิตชีวา อบอุ่นและเป็นกันเอง
กับเมืองแสนสวยที่ชื่อ "บรูจ"

หลงรักเธอเข้าเต็มเปาแล้วสิ...

 


หน้าถัดไป : ประทับรอย ประทับใจ ••